BMWลุยตลาด'บิ๊กไบค์'ครึ่งปีหลัง

หากเอ่ยถึงตลาดซูเปอร์ไบค์หรือตลาดจักรยานยนต์ขนาดใหญ่ในช่วงที่ผ่านมา แน่นอนว่าแบรนด์แรกๆ ที่หลายคนจะนึกถึงต้องมีชื่อของบีเอ็มดับเบิลยูติดเข้ามาด้วยอย่างแน่นอน ขณะที่ภาพลักษณ์ของบิ๊กไบค์ที่มีการนำเสนอออกมา ไม่ว่าจะเป็นการเข้าร่วมการแข่งขันรายการต่างๆก็ล้วนแล้วแต่เป็นการแสดงให้เห็นถึงศักยภาพของบีเอ็มดับเบิลยูว่าไม่ได้เป็นสองรองใคร

ในส่วนของตลาดประเทศไทยแม้ความนิยมในตัวรถซูเปอร์ไบค์จะไม่มากเท่าตลาดต่างประเทศ แต่ก็ถือเป็นตลาดที่ละเลยไม่ได้ เพราะแนวโน้มความต้องการของตลาดเริ่มมีเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งบีเอ็มดับเบิลยูก็ได้ตระหนักถึงความสำคัญของตลาดดังกล่าว และได้มอบหมายให้ ม.ล. กมลชาติ ประวิตร เป็นผู้กำหนดทิศทาง นโยบาย เป้าหมาย เพื่อให้สองล้อจากค่ายใบพัดสีฟ้าเป็นผู้นำของตลาดซูเปอร์แบบพรีเมียมในประเทศไทย

+++ ผลการดำเนินงานในช่วงที่ผ่านมา
ผลงานด้านยอดขายในปีที่ผ่านมามีประมาณ 142 คัน ขณะที่ตัวเลขยอดขายนับตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมาถือว่าการตอบรับจากลูกค้าดีมาก โดยมีปัจจัยมาจากการเปิดตัวรถรุ่นใหม่ 4 รุ่นในช่วงงานมอเตอร์โชว์ ได้แก่ BMW S 1000 RR ซึ่งถือเป็นรถสปอร์ตซูเปอร์ไบค์รุ่นแรกของบีเอ็มดับเบิลยู ตามมาด้วย BMW F 800 R "The Naked Bike", BMW R 1200 GS/Adventure และ BMW R 1200 RT
โดยในรุ่น BMW S 1000 RR จากเดิมที่นำเข้ามา 20 คัน ตอนนี้เพิ่มขึ้นมาเป็น 40 คัน ซึ่งผลการตอบรับที่ดีเป็นผลมาจากตัวสินค้าที่เป็นสปอร์ต ทำให้ขยายฐานลูกค้าจากเดิมที่เป็นกลุ่มผู้ใหญ่ก็ขยายมาสู่กลุ่มลูกค้าที่เด็กลงมา และยังเป็นการขยายเข้าไปกินยอดขายของคู่แข่งที่มีอยู่ในตลาดด้วยเช่นเดียวกัน นอกจากนั้นแล้วกลุ่มตลาดฟลีตหรือกลุ่มองค์กร,หน่วยงานต่างๆก็มีการสั่งซื้อรถของบีเอ็มดับเบิลยูเป็นจำนวนกว่า 300 คันในช่วงที่ผ่านมา

+++ประเมินผลกระทบจากปัจจัยลบที่เกิดขึ้น
เหตุการณ์ที่ไม่แน่นอนทางการเมืองที่เกิดขึ้น ส่งผลกระทบกับโชว์รูมและศูนย์บริการที่อยู่ใกล้พื้นที่ชุมนุมเพราะผู้บริโภคเกิดความไม่มั่นใจ และไม่อยู่ในอารมณ์ที่จะจับจ่ายใช้สอย หรือแม้กระทั่งการนำรถเข้ามารับบริการก็ไม่มีการเข้ามา อย่างไรก็ตามหลังจากทุกอย่างกลับมาเป็นปกติ ผู้ประกอบการก็คาดว่าภาพรวมจะกลับมาดีขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเศรษฐกิจ การลงทุน ที่จะมีส่วนผลักดันทำให้ภาพรวมกลับมาฟื้นตัวอีกครั้งในครึ่งปีหลัง

+++ครึ่งปีหลังจะมีการเปิดตัวรถใหม่
เราเพิ่งทำการเปิดตัวรถรุ่นพิเศษ "30 Years GS"เพื่อฉลองครบรอบ 30 ปีของ BMW GS โดยมีการนำมาจำหน่ายทั้งสิ้น 4 รุ่น รุ่นละ 5 คัน ได้แก่BMW R 1200 GS "30 Years GS",BMW R 1200 GS Adventure "30 Years GS",BMW F 800 GS "30 Years GS" และ BMW F 650 GS "30 Years GS"ซึ่งความโดดเด่นของแต่ละรุ่นคือ สี ที่มีให้เลือกแบบAlpine White,เบาะสีแดงพร้อมลัญลักษณ์ GS ในรุ่น F800 GS และ R1200 GS Adventure พร้อมด้วยสัญลักษณ์ครบรอบ 30 ปีที่เป็นสีเอกลักษณ์ของ BMW Motorrad Motorsport นั่นคือสีแดง-น้ำเงิน
นอกจากนั้นแล้วยังมีแผนงานที่จะนำรถรุ่นใหม่เข้ามาเปิดตัวสู่ตลาดอีกในช่วงที่เหลือนับจากนี้ ซึ่งขณะนี้กำลังพิจารณาว่าจะนำรถรุ่นไหนเข้ามา

+++กลยุทธ์ในการขับเคลื่อนแผนงานครึ่งปีหลัง
กลยุทธ์ในครึ่งปีหลัง นอกจากการมีรถใหม่เข้ามาสู่ตลาดแล้ว ด้านการบริการมีความพร้อมด้วยจำนวนโชว์รูมและศูนย์บริการอาทิ บาร์เซโลน่า มอเตอร์ ,บีเค มอเตอร์ พระราม 3,เชียงใหม่ และภูเก็ต ซึ่งทั้งหมดมีบุคลากร,อุปกรณ์เทคโนโลยีที่ทันสมัย,เครื่องมือพิเศษ ซึ่งมีการทำงานแบบเรียลไทม์ และสามารถติดต่อไปยังศูนย์เทคนิคที่เยอรมนีได้โดยตรง,ระบบคลังอะไหล่,ศูนย์ฝึกอบรมที่ได้มาตรฐาน ส่วนการให้บริการกับกลุ่มลูกค้าเน้นการดูแลอย่างใกล้ชิด ปัจจุบันฐานลูกค้าของบีเอ็มดับเบิลยูมีจำนวนทั้งสิ้นกว่า 1,000 คน ซึ่งจะมีการจัดกิจกรรมกับกลุ่มลูกค้าอย่างสม่ำเสมอ อาทิ อบรมขับขี่ ,การเข้าร่วมเชียงใหม่ ไบค์ วีค หรือภูเก็ต ไบค์ วีค

ทางด้านกลยุทธ์การขาย เนื่องจากเป็นบริษัทในกลุ่มบีเอ็มดับเบิลยูกรุ๊ป ที่มีความแข็งแกร่งด้านข้อเสนอทางการเงิน ผ่านแคมเปญ "บีเอ็มดับเบิลยู ไฟแนนเซียล เซอร์วิส"โดยเปิดโอกาสให้กับผู้บริโภคที่ต้องการเป็นเจ้าของรถง่ายๆด้วยการเริ่มผ่อนที่หลักหมื่นต้นๆต่อเดือน ซึ่งข้อเสนอดังกล่าวทำให้เปิดกว้างในการเข้าหากลุ่มลูกค้าที่เพิ่มมากขึ้น ปัจจุบันราคาซูเปอร์ไบค์ของบีเอ็มดับเบิลยู เริ่มต้นที่ 639,000 -1,390,000 บาท

+++ภาพรวมการแข่งขันของตลาดรถบิ๊กไบค์
สำหรับการแข่งขันของตลาดบิ๊กไบค์ในปัจจุบันพบว่า มีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง มี
แบรนด์ต่างๆทั้งจากญี่ปุ่น,ยุโรป เข้ามาแข่งขันกันอย่างชัดเจน อย่างไรก็ตามบีเอ็มดับเบิลยู เชื่อมั่นว่ายังเป็นผู้นำในกลุ่มซูเปอร์ไบค์ที่มีความหลากหลายจากตัวสินค้าที่มากกว่าคู่แข่ง, ความพร้อมด้านการให้บริการของโชว์รูมและศูนย์บริการ ขณะที่การแข่งขันกับกลุ่มเกรย์มาร์เก็ตที่มีการนำรถเข้ามาจำหน่ายนั้น มองว่ามีจำนวนที่น้อยลง และส่วนมากเป็นรถในรุ่นเก่าแล้ว ซึ่งในส่วนของศูนย์บริการของบีเอ็มดับเบิลยูได้เปิดรับบริการรถจากเกรย์มาร์เก็ตแต่การให้ความสำคัญจะยังอยู่ที่ลูกค้าของตนเองก่อนเป็นลำดับแรก

+++เป้าหมายยอดขายในปีนี้
สำหรับเป้ายอดขายได้วางไว้ที่ 150 คัน อย่างไรก็ตามผลการดำเนินงานในช่วงที่ผ่านมาพบว่าลูกค้าให้การตอบรับที่ดีมาก ทำให้ต้องมีการปรับเป้ายอดขายโดยคาดว่าน่าจะเพิ่มขึ้นอีกประมาณ 50% โดยแบ่งออกเป็นรถในกลุ่มเอ็นดูโร่ 50 %,ทัวริ่ง 25%,สปอร์ตและออนโรด 25% ขณะที่ยอดขายที่มาจากกลุ่มฟลีต หรือองค์กร,หน่วยงานต่างๆคิดเป็น 10-15% ของยอดขายรวมทั้งหมด

เพิ่มเติม http://www.thannews.th.com