ฟีมปรับตัวได้ดีกับ 4 จังหวะ

เป็นการฝึกซ้อมครั้งที่ 3 ในรอบ 2 เดือนของเจ้าฟีม รัฐภาคย์ วิไลโรจน์ หลังจากการซ้อมครั้งล่าสุดเมื่อวันที่ 29 มกราคม ที่ผ่านมานั้นทำได้ไม่เต็มที่นัก ซ้อมได้เพียงช่วงครึ่งวันเช้า แต่ครั้งนี้เป็นการซ้อมเพื่อให้เกิดความเคยชิน เนื่องจากเจ้าฟีมไม่ได้เดินทางกลับไปฝึกซ้อมที่ประเทศเสปนเช่นนักแข่งคนอื่นๆ เนื่องจากปัญหาความไม่พร้อมของตัวรถแข่ง

ในการฝึกซ้อมครั้งนี้มีเจ้าโฟล์ท รัฐพงษ์ วิไลโรจน์ น้องชายร่วมฝึกซ้อมด้วย รวมทั้งมีนักแข่งชาวญี่ปุ่น โคบายาชิ เรียวตะ และ ทากาอะกิ นากางามิ ทีม HARC-Pro อีกสองท่านเข้าร่วมฝึกซ้อม เนื่องจากที่ประเทศญี่ปุ่นนั้นอากาศเย็นจัดจนไม่สามารถฝึกซ้อมใดๆ ได้เลย

วันแรกของเจ้าฟีม ได้ขี่อย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วยถึง 60รอบ ทำเวลาดีที่สุดในวันนี้ที่ 1'04.99 เหตุที่ยังไม่เร็วกว่านี้เพราะเจ้าฟีมไม่อยากเกิดอุบัติเหตุใดๆทั้งสิ้นก่อนเปิดฤดูกาลนั่นเอง แต่สิ่งหนึ่งที่เจ้าฟีมแสดงให้เห็นนั่นคือความคงที่และวิธีการขับขี่ที่ดูนุ่มนวล สุขุม เหมือนจะไม่เร็ว แต่เวลาต่อรอบที่ทำได้นั้นกลับเร็วอย่างน่าทึ่ง และวันที่สองนี้ฟีมก็ยังขับไปถึง 56รอบ ทำให้ความคุ้นเคยในเครื่องยนต์ 4 จังหวะนั้นทำได้ดีกว่าการซ้อมสองครั้งที่ผ่านมา

"ช่วงนี้ได้จับรถแข่งอย่างต่อเนื่อง จากครั้งแรกที่รู้สึกอืดๆหนัก มาครั้งนี้รู้สึกว่ารถคันนี้ช้าไปแล้ว ไม่ได้รู้สึกถึงความยากเลยแม้แต่น้อย ไม่น่าจะมีปัญหากับเครื่องยนต์ 4จังหวะ ที่ไม่กดเวลาให้เร็วกว่านี้ก็เพราะขอขี่แบบเซฟดีกว่า หากเกิดอุบัติเหตุช่วงนี้ไม่ดีแน่ มั่นใจครับว่ารถโมโต 2 ไม่น่าจะยากครับ"

ส่วนเจ้าโฟล์ทนั้นในวันแรกยังติดการสอบปลายภาค เดินทางมาร่วมวันที่สองก็สามารถเรียกคืนฟอร์มเก่งเมื่อครั้งเข้าร่วมการแข่งขันเมื่อปี 2008 กลับคืนมาได้เกือบใกล้เคียง ทำเวลาได้ที่ 1'04.59 และขับขี่ถึง 95 รอบ
ทากาอะกิ นากางามิ เด็กสร้างของทีม Harc-Pro หลังจากได้แชมป์ออลแจแปนในรุ่น GP125 สองปีติดก็เดินทางไปอยู่เสปนเสีย 2 ปี เข้าร่วมการแข่งขัน WGP125 แต่ไม่ประสบความสำเร็จนัก เนื่องจากร่างกายที่สูงใหญ่ ปีที่ผ่านมาได้อันดับที่ 19 ของคะแนนสะสมชิงแชมป์โลก มาในปีนี้กลับมาอยู่กับทีมเดิมขยับขึ้นมาขี่ CBR600 เพื่อเตรียมเข้าร่วมการแข่งขัน All Japan ในรุ่น ST600 สามารถทำเวลาได้เร็วสุดที่ 1'03.03 นับว่าเป็นนักแข่งที่มีอนาคตที่ดีอีกคนก็ว่าได้ เพียงแต่ว่าสองปีที่ผ่านมานั้นไปอยู่กับทีมงานที่ไม่ลงตัวนักและรูปร่างที่สูงใหญ่เกินเพื่อนร่วมรุ่นนั่นเอง

โคบายาชิ เรียวตะ อันดับ 4 ในรุ่น ST600 เมื่อปีที่แล้วรายการออลแจแปน ขับขี่ได้ดีเช่นกัน ทำเวลาดีที่สุดที่ 1'04.11 ครั้งนี้เหมือนอดอยากปากแห้งมานาน แค่วันแรกก็กดคันเร่งไปถึง 135รอบ เหตุเพราะการจะฝึกซ้อมที่ญี่ปุ่นนั้นทำได้ยากมาก

วันสุดท้ายของการฝึกซ้อม เจ้าฟีมติดการสอบที่ RBAC "สแตมป์" อภิวัฒน์ วงศ์ธนานนท์ จึงมีโอกาสได้ทดสอบ CBR600 ด้วยอีกคน จากรถแข่งประเภทออโต้เมติก Honda Click ถึงจะเป็นแชมป์ประเทศไทยคนล่าสุดก็ตาม ขยับขึ้นมาถึง CBR600 ก็เป็นงานยากในการปรับตัว จึงทำได้เพียงรู้จักกับรถเท่านั้น กดคันเร่งทำเวลาที่ 1'08.8

เพิ่มเติม http://www.aphonda.co.th